กระเบื้องไวนิล หรือ กระเบื้องยางไวนิล ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีความแข็งแรง สวยงาม หรูหรา โดยเฉพาะกับ กระเบื้องไวนิล ลายไม้ ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น เบาสบายสไตล์ธรรมชาติให้กับทุกพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

อีกทั้งยังติดตั้งเองได้ง่ายๆ ไม่ต้องง้อช่างด้วยนวัตกรรม กระเบื้องไวนิล Click Lock จึงยิ่งตอบโจทย์คนที่อยากตกแต่งบ้านด้วยตัวเองได้อย่างตรงใจ

ทั้งนี้ รูปแบบของการปูกระเบื้องไวนิลด้วยตัวเองนั้น ก็ยังทำได้หลากหลาย ซึ่งจะยิ่งช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับพื้นที่ได้มากขึ้นเพิ่มเติมความพิเศษนอกเหนือจากลวดลายและสีสันที่สวยงามแต่เดิมของกระเบื้อง โดยรูปแบบหรือ Lay Out ของการปูกระเบื้องไวนิลยอดฮิตนั้น มีดังต่อไปนี้

1.รูปแบบกริด

เป็นรูปแบบมาตรฐาน อาศัยความเป็นระเบียบของการเรียงต่อกันแบบเท่าๆ กัน จึงทำให้เกิดเป็นความเรียบง่ายที่ดูดีแบบมีสไตล์ และได้รับความนิยมอย่างเป็นสากล ถือเป็นรูปแบบของการปูพื้นกระเบื้องไวนิลที่ง่ายที่สุด

2.รูปแบบออฟเซ็ต

หรือจะเรียกว่าเป็นรูปแบบอิฐก็ได้ เพราะมีลักษณะการวางกระเบื้องไวนิลให้เป็นเหมือนกำแพงอิฐ วางกระเบื้องให้เหลื่อมกันระหว่างแถว

เกิดเป็นลวยลายที่ร่วมสมัยอีกสไตล์ ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการปูกระเบื้องที่ได้รับความนิยมเช่นกัน และใช้ได้ทั้งกับกระเบื้องไวนิลและกระเบื้องทั่วๆ ไปด้วย

3.รูปแบบสลับสี

หรือที่ในต่างประเทศจะเรียกันว่า Stagger แปลว่า ซวนเซ เป็นรูปแบบการจัดเรียงกระเบื้องไวนิลคล้ายแบบออฟเซ็ต แต่ใช้กระเบื้อง 2 สี หรือ 3 สี เพื่อให้เกิดลวดลายที่สลับกันไปมา ทำให้ยิ่งเพิ่มความแปลกตา และโดดเด่นที่ไม่เหมือนใครได้มากยิ่งขึ้น

4.รูปแบบเส้นทแยงมุม

เป็นการเรียงกระเบื้องไวนิล Lay Out เดียวกันกับแบบ Offset แต่จัดวางให้ทำมุมเฉียงทะแยง 45 องศา จึงก่อให้เกิดบรรยากาศที่แปลกตา เป็นมุมมองใหม่ และสร้างความตื่นใจตื่นใจให้กับพื้นที่ได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือน

5.รูปแบบก้างปลา

ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบการปูที่มีความยากและซับซ้อน ต้องอาศัยความพิถีพิถันค่อนข้างมาก แต่ก็นับว่าคุ้มค่า เพราะจะทำให้ได้ลวดลายที่มีความสวยงาม เป็นการวางแนวกระเบื้องสลับไปมาให้คล้ายกับก้างปลา

6.รูปแบบสาน

มีความคล้ายคลึงกับแบบก้างปลา แต่มีความเป็นระเบียบมากกว่า มีรูปแบบเหมือนการสานตระกร้าแบบไทยๆ สามารถใช้กับกระเบื้องไวนิลสีเดียวก็ได้ หรือจะสลับสีกันก็จะเกิดเป็นลวดลายการสานที่มีมิติ สร้างบรรยกาศให้ดูมีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

7.รูปแบบทางเดิน

ที่เรียกว่ารูปแบบ “ทางเดิน” นั้น ก็เพราะโดดเด่นด้วยการแทรกแถวกระเบื้องไวนิลตรงกลางระหว่างแนวระเบื้องด้านข้าง 2 ฝั่ง เหมือนเป็นทางเดินหรือ Corridor ทำให้เกิดความหรูหรา สวยงาม ที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

8.รูปแบบหมุน

หรือเรียกอีกชื่อว่า Quarter Turn เป็นรูปแบบที่ต้องอาศัยลักษณะของกระเบื้องไวนิลที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ และมีทรงสี่เหลี่ยม โดยเริ่มกระเบื้องแผ่นแรกที่ทิศทางใดก็ได้ หลังจากนั้นกระเบื้องแผ่นต่อมาก็พลิกหมุน 90 องศาวางเรียงต่อกัน

แล้วแผ่นต่อไปก็พลิกหมุนอีก วางต่อไปกันเรื่อยๆ จนทำให้เกิดรูปแบบของลวดลายหมุนวนสร้างความโดดเด่น ที่ทำให้แม้จะใช้กระเบื้องลายเดียวกันกับที่อื่น แต่เมื่อนำมาปูแบบนี้ ก็จะทำให้แตกต่างออกไป

9.รูปแบบสุ่ม

เป็นรูปแบบที่ใช้กระเบื้องไวนิลหลายขนาด หลายสี มาวางเรียงต่อกันแบบไม่มีแพทเทิร์นตายตัว ไม่ได้กำหนดว่าต้องไซส์ไหน สีไหน ลายไหนก่อนหลัง

แต่ Random สุ่มวางเรียงไปเลยตามอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งก็จะทำให้เกิดลวดลายที่มีความแปลกใหม่ และสร้างความรู้สึกสนุกสนานให้กับพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

นอกจาก 9 รูปแบบการปูกระเบื้องไวนิลที่ยกตัวอย่างมานี้ ในความเป็นจริงแล้วก็ยังมีอีกหลายรูปแบบเลยที่สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับจินตนาการของเราเลยว่า

อยากให้เกิดลวดลายแบบไหน โดยกระเบื้องไวนิลแบบคลิกล็อกนั้น สามารถตอบโจทย์การปูกระเบื้องแบบ DIY ได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถแก้ไข ดึงออก ติดล็อกใหม่ได้ง่าย แต่ทั้งนี้ กระเบื้องไวนิลแบบทากาว หรือมีกาวในตัวก็ทำได้เช่นกัน

เพียงแต่ต้องอาศัยการวางแผนแบบออกแบบ Lay Out ล่วงหน้าไว้ก่อน เนื่องจากหากติดไปแล้ว จะติดแก้ไขใหม่ก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากกว่า

ดังนั้น หากต้องการตอบโจทย์ความเป็นอิสระในการปูกระเบื้องให้ง่าย และสร้างสรรค์รูปแบบได้ตามใจมากที่สุด กระเบื้องไวนิลคลิกล็อกก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุดนั่นเอง